Table of Contents
Toggleวาล์วระบายแรงดัน (Pressure Relief Valve – PRV)
วาล์วระบายแรงดัน หรือ Pressure relief valve เป็นวาล์วที่ใช้ในการควบคุมความดันหรือจำกัดความดันของน้ำมัน ก๊าซ หรือไอน้ำในระบบไฮดรอลิกไม่ให้มีค่าสูงเกินกว่าค่าที่กำหนด ซึ่งหากความดันของระบบสูงขึ้น วาล์วก็จะระบายของเหลวออกจากระบบเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ต่างๆ เกิดการชำรุดเสียหายจึงนิยมใช้งานในเครื่องจักร สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ความแตกต่างระหว่าง Pressure relief valve กับ Pressure safety valve
Pressure Safety Valve (PSV) และ Pressure Relief Valve (PRV) แตกต่างกันในด้านของการทำงาน โดย PSV จะเปิดอออกทันทีเมื่อแรงดันเกินค่ากำหนด ส่วน PRV จะค่อย ๆ ปล่องแรงดันออกจากระบบเมื่อแรงดันเกินค่าที่กำหนด
อ่านเพิ่มเติม : PSV VS PRV
หน้าที่ของ PRV
- ป้องกันความเสียหาย: ป้องกันการเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์และระบบท่อที่อาจเกิดขึ้นจากแรงดันที่เกินกว่าค่าที่กำหนด
- รักษาความปลอดภัย: ป้องกันการระเบิดหรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากแรงดันที่สูงเกินไป
- รักษาเสถียรภาพของระบบ: ควบคุมแรงดันในระบบให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ
หลักการทำงานของ Pressure Relief Valve
- การตั้งค่าแรงดัน (Set Pressure): วาล์วระบายแรงดันจะถูกตั้งค่าให้เปิดเมื่อแรงดันในระบบถึงค่าที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นค่าที่ระบบสามารถรับได้อย่างปลอดภัย
- การเปิดวาล์ว (Valve Opening): เมื่อแรงดันในระบบเกินค่าที่ตั้งไว้ สปริงหรือไดอะแฟรมในวาล์วจะถูกดันให้เปิดวาล์ว ทำให้แรงดันส่วนเกินถูกปล่อยออกจากระบบ
- การปล่อยแรงดัน (Pressure Release): แรงดันที่ปล่อยออกมาจะลดลงจนถึงค่าที่ปลอดภัย เมื่อแรงดันลดลงต่ำกว่าค่าที่กำหนด สปริงหรือไดอะแฟรมจะปิดวาล์วอีกครั้งเพื่อป้องกันการสูญเสียแรงดันเกินจำเป็น
- การปิดวาล์ว (Valve Closing): วาล์วจะปิดเมื่อแรงดันลดลงถึงระดับที่ปลอดภัย ทำให้ระบบสามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ
วิดีโอสาธิตการทำงานของวาล์วระบายแรงดัน
Pilot Pressure Relief Valve กับ PRV แบบปกติ
PRV (Pressure Relief Valve) แบบ Pilot Operated คือวาล์วลดแรงดันที่ใช้การควบคุมด้วยนักบิน (pilot) เพื่อช่วยในการเปิดและปิดวาล์วหลัก ซึ่งต่างจาก PRV แบบปกติที่ใช้การทำงานโดยตรงโดยใช้แรงดันของระบบเพียงอย่างเดียว
ความแตกต่างระหว่าง PRV แบบ Pilot Operated และ PRV ปกติ
- โครงสร้างและการทำงาน:
- PRV แบบ Pilot Operated: ประกอบด้วยสองส่วนหลักคือวาล์วหลัก (main valve) และวาล์วนักบิน (pilot valve) ซึ่งวาล์วนักบินจะควบคุมการเปิดและปิดของวาล์วหลัก เมื่อตรวจจับแรงดันที่เกินค่าที่กำหนด วาล์วนักบินจะเปิดเพื่อปล่อยแรงดันบางส่วนออก ทำให้วาล์วหลักเปิดเพื่อปล่อยแรงดันส่วนที่เหลือ
- PRV ปกติ: ทำงานโดยตรงด้วยแรงดันของระบบ เมื่อแรงดันเกินค่าที่กำหนด สปริงหรือไดอะแฟรมในวาล์วจะเปิดเพื่อปล่อยแรงดันออกจนกว่าจะแรงดันจะลดลงถึงค่าที่กำหนด
- ความแม่นยำและความเสถียร:
- PRV แบบ Pilot Operated: มีความแม่นยำสูงกว่าและสามารถปรับการทำงานได้ละเอียดขึ้น เนื่องจากการควบคุมแรงดันจะมีความเสถียรและตอบสนองได้รวดเร็ว
- PRV ปกติ: ความแม่นยำและความเสถียรอาจน้อยกว่า โดยเฉพาะในระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงแรงดันอย่างรวดเร็ว
- การใช้งานและข้อดี:
- PRV แบบ Pilot Operated: เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการการควบคุมแรงดันที่แม่นยำและเสถียร เช่น ระบบน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือระบบที่มีความสำคัญสูง
- PRV ปกติ: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการความแม่นยำสูงหรือระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงแรงดันไม่มาก
- การบำรุงรักษา:
- PRV แบบ Pilot Operated: อาจต้องการการบำรุงรักษาที่ซับซ้อนกว่าเนื่องจากมีส่วนประกอบมากขึ้น
- PRV ปกติ: การบำรุงรักษาง่ายกว่าเนื่องจากมีโครงสร้างที่เรียบง่าย
สรุปแล้ว PRV แบบ Pilot Operated มีความแม่นยำและเสถียรในการควบคุมแรงดันมากกว่า PRV ปกติ แต่ก็มีความซับซ้อนในการบำรุงรักษามากขึ้น จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับระบบและความต้องการในการควบคุมแรงดัน
บทสรุป
โดยสรุปแล้ววาล์วระบายแรงดัน (Pressure Relief Valve) เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในระบบที่มีการใช้แรงดัน โดยมีหน้าที่หลักในการป้องกันแรงดันเกิน ป้องกันความเสียหายและรักษาความปลอดภัยของระบบ โดยทำงานตามหลักการเปิด-ปิดวาล์วตามค่าแรงดันที่ตั้งไว้เพื่อปล่อยแรงดันส่วนเกินออกจากระบบ มีความแตกต่างจาก Safety valve ในด้านของความเร็วในการปลดปล่อยแรงดัน